โบท็อก (BOTOX)

โบท็อก คือ โปรตีนชนิดหนึ่งมีชื่อทางการแพทย์ เรียกว่า Botulinum Toxin A เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ตัวยาโบท็อกจะออกฤทธิ์โดยไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว ช่วยลดริ้วรอย หรือในคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อก็สามารถฉีดโบท็อกเผื่อให้กรามเล็กลง เป็นวิธีทำให้หน้าเรียวได้

โบท็อกช่วยอะไรบ้าง? botox คือตัวยาที่สามารถใช้ฉีดได้หลายตำแหน่ง แต่ส่วนใหญ่ที่นิยม คือใช้ลดริ้วรอย ลดกรามและปรับหน้าเรียวครับ

  1. ช่วยลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน กลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อยลง ริ้วรอยบนใบหน้าจึงค่อยๆ ลดลง โบท็อกจะฉีดตรงบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า เช่น เส้นที่หน้าผาก ตีนกา รอยขมวดคิ้ว ช่วยให้ดูอ่อนวัยกว่าเดิม
  2. ช่วยปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือน โบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อเล็กลง เนื่องจากกล้ามเนื้อโดยปกติหากไม่ได้ขยับเขยื้อนจะค่อยๆ มีขนาดเล็กลงอยู่แล้ว หมอจะฉีดตรงแนวขากรรไกร กราม เพื่อปรับใบหน้าให้เล็กและเรียวขึ้น
  3. ช่วยฟื้นฟูผิว การฉีดโบท็อกสามารถช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ โดยหมอจะฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาด ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

บริเวณที่นิยมฉีดโบท็อก มักเป็นส่วนที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย ได้แก่ หางตา หน้าผาก ระหว่างคิ้วที่ผิวเกิดรอยพับ จากการแสดงสีหน้าหรืออารมณ์ต่างๆ รวมไปถึง การลดกราม ปรับหน้าเรียว ส่วนใหญ่ก็นิยมฉีดโบท็อก เพราะเห็นผลเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลครับ หมอรวบรวมข้อมูลจุดฉีดโบท็อกมาให้ดังนี้

  • โบท็อกลดกราม
  • โบท็อกลิฟหน้า
  • โบท็อกหางตา
  • โบท็อกหน้าผาก
  • โบท็อกระหว่างคิ้ว
  • โบท็อกลดโหนกแก้ม
  • โบท็อกปีกจมูก
  • โบท็อกรักแร้
  • โบท็อกน่อง
  • โบท็อกแขน

การฉีดโบท็อก ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผลข้างเคียงถาวร (ในกรณีที่เป็นโบท็อกแท้ ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่นับรวมโบท็อกปลอม) โบท็อกแท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถสลายเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ ความปลอดภัยยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีดโบท็อก หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ประเมินปริมาณตัวยาที่เหมาะสม จะไม่มีผลข้างเคียงหรือเป็นอันตรายครับ  การฉีดโบท็อกที่อันตรายคือฉีดกับหมอกระเป๋า หมอที่ไม่มีประสบการณ์ เพราะหมอที่มีประสบการณ์จะรู้กายวิภาค และได้เรียนพวกตำแหน่งเส้นเลือด กล้ามเนื้อ หากพลาดฉีดโบท็อกโดนเส้นเลือดก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อคนไข้ได้ครับ

การฉีดโบท็อกสามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าได้หลากหลาย ทั้งช่วยลดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยหน้าผากหรือริ้วรอยตรงหว่างคิ้ว ช่วยปรับรูปหน้าเรียวและกระชับกรอบหน้าให้หน้า V-Shape มากขึ้น


นอกจากนี้การฉีดโบท็อก ยังได้ถูกยอมรับจากวงการแพทย์ ว่ามีความปลอดภัย แม้ว่า Botox จะเป็นสารที่ฉีดเข้าร่างกาย แต่ก็สามารถสลายได้เองภายในระยะเวลา 6-12 เดือน โดยไม่มีสารตกค้าง และไม่อันตรายต่อร่างกาย

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก รวมไปถึงวิธีการสังเกตโบท็อกแทแต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์จะสามารถประเมินถึงปัญหาได้ตรงจุด และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
  • ฉีดโบท็อกแท้ ผ่านการรับรองจาก อย.เท่านั้น เพื่อลดโอกาสการดื้อยาและเกิดผลข้างเคียง
  • ควรให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป หรือขอกล่องและขวดกลับบ้าน ไว้ตรวจสอบเพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
  • งดสครับใบหน้า คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

ก่อนตัดสินใจ ฉีดโบท็อกซ์ หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานครับ เพื่อความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและลดความเสี่ยงในการเจอโบท็อกปลอม

  1. เลือกคลินิกฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย ควรพิจารณาอะไรบ้าง ?
  2. เลือกคลินิกฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย ควรพิจารณาอะไรบ้าง?
  3. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
  4. ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น การฉีดโบท็อกปลอมจะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อก (ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา)
  5. ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ เช่น Facebook Pantip

ข้อดีของการฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ นอกจากมีความปลอดภัยแล้ว แพทย์ที่มีประสบการณ์จะมีความรู้ด้านโครงสร้างผิว รู้ตำแหน่งเส้นเลือดสำคัญ รู้ว่าต้องฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย และให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ คนไข้ควรเข้ารับการฉีดโบท็อก กับคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข

หลังฉีดโบท็อกอาจมีอาการบวมเล็กน้อยตรงจุดที่ฉีด หรือบวมจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไปครับ ซึ่งจะสามารถหายไปได้เองภายในประมาณ 2-3 วัน แต่ถ้าหากบวมผิดปกติ บวมขึ้นเรื่อย ๆ มีอาการปวดร่วมด้วย แนะนำให้กลับไปที่คลินิกเพื่อให้หมอประเมินอาการและทำการรักษาอย่างเหมาะสม

ต้องสังเกตก่อนครับว่าฉีดโบท็อกแล้วเป็นก้อนมีลักษณะเป็นก้อนแบบไหน ในกรณีที่เป็นก้อนบวมจากรอยเข็ม อาจเป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ 2-3 วัน อาการบวมเป็นก้อนจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ถ้าหากยังมีก้อนอยู่ กดแล้วรู้สึกเจ็บ อาจมีสาเหตุมาจากการอักเสบติดเชื้อหลังฉีด มักเกิดจากฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดมากพอ ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกย่อยสลายไวขึ้น คือ ความร้อน และการไหลเวียนของเลือด ดังนั้นหลังฉีดโบท็อกคนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด

การฉีดโบท็อก สามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลากหลาย ทั้งการลดริ้วรอย ลดกราม ปรับหน้าเรียว การฉีดโบท็อกที่ถูกวิธีโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ นอกจากจะไม่ทำให้หน้าดูแข็งเกร็งผิดธรรมชาติ คนไข้ยังสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้อย่างเป็นปกติ

  • พบแพทย์เพื่อปรึกษาประเมินรูปหน้า สภาพผิว ปัญหาที่กังวล
  • เลือกยี่ห้อของโบท็อกที่จะใช้ เพื่อให้เหมาะกับปัญหาและจุดที่ฉีด ซึ่งมีให้เลือกทั้งของอเมริกา/อังกฤษ/เกาหลี โดยแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องของการกระจายตัวยา ความเร็วในการออกฤทธิ์และระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ รวมไปถึงราคาที่แตกต่างกันครับ
  • แพทย์ฉีดโบท็อกในตำแหน่งที่ต้องการรักษา และเลือกใช้โบท็อกในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
  • สำหรับคนที่กังวลว่าฉีดโบท็อก เจ็บไหม ก่อนฉีดจะมีการทายาชาหรือประคบน้ำแข็งก่อนเพื่อให้คนไข้ไม่เจ็บ แล้วแพทย์จะฉีดโบท็อกด้วยเข็มขนาดเล็กไปยังบริเวณกล้ามเนื้อ
  1. หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
  2. ควรทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธ์ไวขึ้น และทำงานดีขึ้น
  3. งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชม. เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการได้
  4. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชม. เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนักๆ ตากแดด ทำเลเซอร์
  5. หลังฉีดโบท็อกควรงดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว
  6. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงอีกด้วย

ควรแจ้งแพทย์ถึงยาที่คนไข้ใช้อยู่ปัจจุบัน ยาที่ได้รับพร้อม กับโบท็อกแล้วเกิดอันตรายมาก (Major Side Effect)

  • กลุ่มยาฆ่าเชื้อ "แบบฉีด" บางตัว

ไม่ใช่เพราะว่าเชื้อโบท็อกจะโดนทำลายแบบความรู้ผิดๆที่เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตนะครับ แต่ยาฆ่าเชื้อบางตัวสามารถเสริมฤทธิ์โบท็อกแล้วเกิดอันตรายได้ ห้ามใช้ร่วมกับโบท็อก ได้แก่ amikacin, colistin, polymyxin E, gentamicin, kanamycin, neomycin, netilmicin, plazomicin, polymyxin B, spectinomycin, streptomycin, tobramycin.

  • กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ

atracurium, cisatracurium, doxacurium, metocurine, mivacurium, pancuronium, pipecuronium, rapacuronium, rocuronium, succinylcholine, tubocurarine, vecuronium.

ติดต่อสอบถาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy